ณ หมู่บ้านแพรกหนามแดง ที่ตั้งอยู่ในชนบทแถบภาคกลางของไทย
ยังมีเด็กชายพิการ ขาแขนข้างขวาลีบแป เพราะตกต้นตาล
ความพิการของเขาได้กลายเป็นชื่อฉายาที่ใครๆเรียก เขาคือ แป
เขามีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนเพียงชั้น ป.4
และต้องช่วยพ่อแม่ซึ่งมีอาชีพชาวนาและรับจ้าง โดยเลี้ยงวัวอยู่ในท้องนา
ครอบครัวของแปมีความขัดแย้งกับทรงวาด
ร่างทรงเจ้าแม่แพรกหนามแดงซึ่งเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลในท้องถิ่น
เนื่องจากพ่อแม่ของเขาไม่เชื่อว่าทรงวาดจะเป็นร่างทรงจริง
ทั้งยังขาดความเคารพเชื่อถือทรงวาดดังเช่นคนอื่นๆ ซ้ำยังต่อต้าน
เพราะเห็นว่าทรงวาดนั้นหลอกลวงชาวบ้านและใช้อิทธิพลของตนเพื่อผลประโยชน์ของ
ตน โดยยึดที่ดินสาธารณะมาเป็นที่ดินของส่วนตัว
โดยอ้างชื่อเจ้าแม่แพรกหนามแดง
และแปเองก็มีเรื่องชกต่อยกับลูกชายเกเรของทรงวาด
ทรงวาดจึงเกิดความไม่พอใจต่อเขาและ ครอบครัวอยู่ไม่น้อย
เย็นย่ำ
วันหนึ่งแปโชคร้ายถูกงูเห่ายักษ์ออกจากโพรงพุ่งเข้าฉก
แต่แปก็ใช้มือข้างเดียวที่มีกำลังคว้าคองูยักษ์นั้นไว้ได้ทัน
มันจึงยิ่งทวีความอาฆาต ตระหวัดรัดร่างของเขาไว้อย่างเหนียวแน่น
เขาต้องทานกำลังของงูที่หมายจะฝังเขี้ยวพิษของมันลงบนร่างของเขาเพื่อเอา
ชีวิต เขาทรงตัวไว้ไม่อยู่จึงล้มลงฟาดกับซากขอนตาลที่ถูกโค่น
หน้าตาบวมปูดบูดเบี้ยว เลือดกลบหน้า
ทว่าคอของงูยังอยู่ในมือและงูก็ยังรัดเขาแน่น และยิ่งแน่นขึ้น
เพื่อนฝูงที่อยู่รอบข้างต่างหนีกระเจิงกันไปตั้งแต่ที่งูปรากฏตัว
ด้วยอิทธิพลความเชือของชาวบ้าน จึงไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วย
และยากที่จะช่วยได้ แม้แต่พ่อของเขาก็ถูกขัดขวาง
เขาจึงต้องต่อสู้กับชะตากรรมของตนเองเพียงลำพัง